โรคภูมิแพ้ ALLERGY

 


ที่อยู่

ไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ในช่วงอุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียสและความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 75-80 ไรฝุ่นชอบอาศัยอยู่ตามที่ๆมีเส้นใย เช่น เตียงนอน หมอนนอน และ โซฟา ขยายพันธุ์ได้รวดเร็วมาก ไรฝุ่นจึงพบมากที่สุดในห้องนอน และ เครื่องนอนต่างๆ 10% ของน้ำหนักที่นอนและหมอน ที่เราใช้นาน 1 ปีขึ้นไป มาจากตัวไรฝุ่นและอึของมัน เช่นเดียวกับที่นอนที่ใช้นาน 6 เดือนก็อาจมีไรฝุ่นมากเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยได้

แหล่งอาหาร

อาหารหลักของไรฝุ่นคือ เศษเซลล์ผิวหนัง สะเก็ดผิวหนังซึ่งหลุดร่วงจากตัวเรา มนุษย์จะสลัดเศษเซลล์เหล่านี้ วันละประมาณหลายพันล้านชิ้น ต่อวัน ส่วนใหญ่ตกลงบนที่นอน ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายก็จะขับเหงื่อในขณะที่เรานอนทำให้ที่นอนมีความชื้นเหมาะแก่การอยู่อาศัยของไรฝุ่นเป็น อย่างดี ในขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะขับของเหลวและสารอื่น ๆ ออกมาในรูปของเหงื่อ ไขมันและขี้ไคล สิ่งเหล่านี้จะปนเปื้อนอยู่ตามผิวหนัง และชิ้นส่วน ของผ้าต่าง ๆ ไรฝุ่น ได้ใช้สารเหล่านี้เป็นอาหารในการเจริญ โดยเศษผิวหนังหรือขี้ไคลเพียง 1 กรัม สามารถเลี้ยงไรฝุ่นจำนวน 1,000,000 ตัว ได้นานถึง 1 สัปดาห์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงมี ไรฝุ่นอยู่ที่นอนมากขนาดนี้

แพร่พันธุ์

ไรฝุ่นจะมีวงจรชีวิต 5 ระยะ คือเมื่อตัวไรเริ่มทำการผสมพันธุ์ ซึ่งหลังจากผสมพันธุ์ได้ 3-4 วัน ตัวเมียจะเริ่มวางไข่เฉลี่ยวันละ 4-5 ครั้ง แต่ละครั้ง สามารถวางไข่ได้เพียงครั้งละ 1 ฟอง โดยตลอดชีวิตของไรฝุ่น 1 ตัว จะสามารถออกไข่ได้ถึง 80-100 ฟอง (กล่าวคือ 1 ตัวจะขยายพันธุ์เป็น 100เท่า) จากนั้นไข่จะเริ่มฟักเป็นตัวอ่อน เข้าสู่ระยะวัยรุ่น จะมีขา 6 ขา และทำการลอกคราบหลายครั้ง เมื่อโตเต็มวัยจะมี 8ขา ไรฝุ่นจะมีช่วงอายุไข เพียง 1-2 เดือน เมื่อตายไปจะทิ้งซากศพไว้เป็นสารก่อภูมิแพ้ให้มนุษย์อีกทางหนึ่ง

อันตราย

จากการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ พิสูจน์ว่าด้วยตัวไรฝุ่นเองนั้นอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์มากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เกิดอันตรายนั้นคือ มูลของ ไรฝุ่นหรือที่เราเรียกว่า กวานีน (Guanine) และซากไรฝุ่น จะถ่ายออกมาเป็นเมือกเหนียวๆ ซึ่งสารนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในผู้คน จำนวนมาก สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นจะพบในมูลหรืออุจจาระ เมื่อมูลของไรฝุ่นแห้งก็จะฟุ้งกระจายเป็นอนุภาคเล็ก ๆ แพร่ปนเปื้อนในอากาศ ทั้งซาก และมูลมีโปรตีนก่อภูมิแพ้สูง เมื่อหายใจนำ ฝุ่นละอองเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน ๆ จะก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เช่น โรคหอบหืดหรือเยื่อบุจมูก อักเสบ โดยอาการที่ปรากฏ ได้แก่ เวียนศีรษะ ไอ จาม โพรงจมูกอักเสบ ตาแดง น้ำตาไหล น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก แน่น อึดอัด บวมในคอหรือ ทางเดินหายใจหรือหลอดลมตีบตัน ถ้าหากอาการรุนแรงอาจถึงขั้นช็อคและเสียชีวิตได้




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จัก Hotmail บริการฟรีอีเมลยอดนิยมของ Microsoft

ซิ ลิ โคน เสริม หน้าอก ยี่ห้อไหนดี

ท่อกระดาษ UD คุณภาพสูง แข็งแรง ติดตั้งง่าย